คิดถึงนักปลกฎหมายระดับแนวหน้า
เป็นทนายความหรือนักกฎหมายแปลกฎหมายได้ถูกต้องทั้งไทย-อังกฤษ และอังกฤษ-ไทย จริงหรือ
จาก ประสบการณ์ของผมที่ผ่านมา มีนักแปลกฎหมายหลายท่านที่สมัครเป็นนักแปลอิสระ จบนิติศาสตร์บัณฑิต เรียนภาษาอังกฤษไม่เกิน 3 วิชา หากพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ดีอยู่แล้วในระดับมัธยม ลูกค้าก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่า ถ้าแปลภาษาอังกฤษ ที่ผิดจุดแรกคือ Grammar แน่นอน นักแปลกฎหมายมีทั้งแจ้งว่าประสบการณ์แปลกฎหมาย 5 ปี 10 ปี แต่งานหลักคือเป็นทนาย ดังนั้น ระยะเวลา 5 ปี หรือ 10 ปี นั้นคือการแปลเอกสารเพียงเดือนละ 10 - 20 หน้า มิใช่แปลทุกวัน ดังนั้น ประสบการณ์ดังกล่าวจะนำมาอ้างว่าประสบการณ์ 5 - 10 ปี คงเป็นไปไม่ได้ การแปลกฎหมายต้องอาศัยเห็นต้นฉบับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษทุกวันและลงมือ แปลทุกวัน จะมีการพัฒนาการแปลขึ้นเรื่อยๆ ผมแปลกฎหมายมา 20 ปี แปลวันละ 7 - 12 หน้า/วัน ไม่เว้นว้นหยุด ประสบการณ์ที่ได้ 16 ปี นั้นคือ 16 ปีจริงๆ มีการพัฒนาการแปลอยู่ตลอดเวลา มีการฝึกอบรมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือหลักสูตรการแปลสำหรับนักกฎหมาย มีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ให้ึคำปรึกษากับศิษย์ได้ดีเลิศที่หาสิ่งใดเปรียบเทียบ มิได้ ท่านอยู่ในใจผมตลอดเวลา ดังนั้น ถ้านักแปลกฎหมายทุำกท่านทำได้ โปรดอย่าโฆษณาชวนเชื่อว่าตนเองแปลเอกสารมานานมีประสบการณ์ 5 - 10 ปี แต่ท่านต้องถามตัวเองก่อนว่าท่านมีความสามารถเพียงพอที่จะแปลงานให้ลูกค้า โดยไม่ทำให้ลูกค้าต้องเดือดร้อนหรือเปล่า
ผม ฝากบทความนี้สำหรับนักแปลรุ่นใหม่ไฟแรงทุกท่านว่า เราได้รับงานแปลมาจากลูกค้าแล้วเราต้องทำให้เต็มความสามารถที่มีอยู่แต่ถ้า งานแปลออกมาไม่ดีพอลูกค้ามี comment ก็ต้องยอมรับในฝีมือของเราว่าเราต้องพัฒนาขึ้นมาอีก อย่าโฆษณาชวนเชื่อทำให้ลูกค้าเค้าตั้งความหวังไว้เยอะ ผมก็เช่นกัน ถ้างานไหนผมไม่มีความสามารถในการแปล ผมจะตอบทันทีเมื่อเห็นงานว่าผมไม่สามารถแปลงานชิ้นนั้นได้ เช่น ให้ผมแปลเครื่องจักร เครื่องยนต์ ต้องให้ผมลงลายมือชื่อรับรองด้วย ผมขอไม่รับครับ เพราะการจะเดินมาได้ถึงวันนี้มันยากเย็น หากมีอะไรพลาดพลั้งไป ทำให้ผมต้องถูกถอนใบอนุญาตแล้วทำให้ไม่มีทางจะกลับไปเหมือนเดิมได้ ผมก็ไม่เสี่ยงครับ...ขอให้โชคดีทุกท่านครับ
ผมยังคิดถึงนักแปลกฎหมายคนเก่งท่านหนึ่งตลอดเวลา
การ แปลกฎหมาย ไม่เพียงแต่จบนิติศาสตร์แล้วจะแปลได้เก่งทุกคน แต่ต้องมีประสบการณ์แปลกฎหมาย มีศิลปะในการใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องและใช้คำศัพท์ได้อย่างเหมาะสมกับภาษา กฎหมาย รวมทั้งพื้นฐานการใช้ภาษา ต้องมีพื้นฐานการศึกษาด้านภาษามาเป็นอย่างดี ผมขอยกตัวอย่างนักแปลท่านหนึ่งที่ผมคิดถึงท่านตลอดเวลา ท่านจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปริญญาตรีอักษรศาสตร จุฬาฯ และมาเรียนนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ เป็นปริญญาใบที่สอง ซึ่งเป็นนักแปลที่อนาคตไกลมากๆ แปลงานได้สวยงามมากๆ ผมไม่เคยชมนักแปลท่านไหนเท่านี้มาก่อนเลย หากท่านยังแปลงานกฎหมายตลอดระยะเวลาอีก 5 ปี ผมยอมรับเลยว่าแซงหน้าผมไปอย่างสวยงามแน่นอน ผมยังคิดถึงนักแปลท่านนี้ไม่หายเลย ผมได้รับงานจากท่านมีการปรับสำนวนให้เป็นสำนวนของผมเพียงเล็กน้อง grammar ไม่ต้องห่วงไม่เคยมีผิดแม้แต่จุดเดียวเพราะพื้นฐานท่านมาดีมากๆในระยะเวลา อันสั้น ที่ผมกับนักแปลกฎหมายท่านนี้ได้ทำงานร่วมกันผมประทับใจมากๆ ครับ แต่ ด้วยความก้าวหน้าของชีวิตของท่านก็ต้องเลือกหนทางที่เจริญก้าวหน้ากว่าการ เป็นนักแปลอิสระ ผมขอสนับสนุนครับ เพราะความก้าวหน้าในอาชีพนักกฎหมายระดับแนวหน้าของประเทศดีกว่าเดินทางบน เส้นทางนักแปลอย่างแน่นอน ผมขออวยพรให้นักแปลคนเก่งท่านนี้ประสบความสำเร็จตลอดไป เพราะท่านมีความสามารถจริงๆ ที่ผมเห็นว่าท่านต้องมีชื่อเสียงในวงการนักกฎหมายอย่างแน่นอน...ผมขออวยพร ให้ท่านประสบความสำเร็จสูงสุดครับ...เวลาผมนำงานแปลกฎหมายจากนักแปลกฎหมาย ท่านอื่นมาแก้ไขเกือบทั้งหมดเพราะผิด grammar และใช้คำศัพท์ไม่เหมาะสม ผมคิดถึงนักแปลท่านนี้ตลอดเลยครับ ขอให้ท่านโชคดีและเป็นทนายที่มีชื่อเสียงระดับชาติในอนาคตครับ... |