ReadyPlanet.com
bulletรับแปลเอกสาร หน้าแรก
bulletเกี่ยวกับเรา
bulletประวัตินักแปล
bulletผลงานแปล
bulletอัตราค่าบริการ
bulletวิธีการชำระเงิน
bulletติดต่อ แปลเอกสาร
bulletรับแปลสัญญา
bulletรับแปลเอกสารกฎหมาย
bulletรับแปลเอกสารรับรองกงสุล
bulletรับแปลงบการเงิน
bulletรับแปลหนังสือรับรองบริษัท
bulletรับแปลเอกสาร สมุทรปราการ
bulletรับแปลคู่มือ
bulletรับแปลบทคัดย่อ
bulletรับทำ Resume
bulletรับถอดเทป และ Subtitle
bulletรับแปลภาษาฝรั่งเศส
bulletรับแปลภาษาญี่ปุ่น
bulletรับแปลภาษาเกาหลี
bulletรับแปลภาษาเขมร(กัมพูชา)
bulletรับแปลภาษาพม่า
bulletรับแปลภาษาลาว
bulletรับแปลภาษาเวียดนาม
bulletรับแปลภาษาเยอรมัน
bulletรับแปลภาษาสเปน
bulletรับแปลภาษาอังกฤษ
bulletรับแปลเอกสารด่วน
bulletรับแปลงาน
bulletรับแปลงานด่วน
bulletการรับรองจากกรมการกงสุล
bulletเกร็ดความรู้เรื่องกฎหมาย
bulletเรื่องเล่านักแปลอิสระ
bulletรายชื่อลูกค้าจ้างแปลเอกสาร
bulletคำถามที่พบบ่อย
bulletรับแปลกฎหมาย-แปลเอกสารกฎหมาย




รับแปลเอกสารธุรกิจต้องรู้ศัพท์ทางธุรกิจอย่างลึกซึ้ง

บทความจากการสัมภาษณ์ คุณพูลศักดิ์ แปลเอกสารธุรกิจ และเอกสารกฎหมาย

กราบสวัสดีท่านผู้สนใจอ่านบทความนี้ ก่อนอื่นอาจจะต้องขอโทษท่านผู้อ่านที่อาจจะล่วงเกินความรู้สึกหรือความคิดเห็นแย้งจากบางท่านว่า เราก็เป็นหนึ่งเหมือนกันด้านการใช้ศัพท์ธุรกิจ และกฎหมาย ความรู้พื้นฐานทางการศึกษาด้านนั้นๆ มาก่อนและพื้นฐานสมัยเรียนมัธยมศึกษาต้องแน่นมาแล้ว

วันนี้ขอยกตัวอย่างคำศัพท์ทางธุรกิจที่มีความหมายเหมือนกันคือคำว่า stock กับ share

Ordinary Shares  แปลว่า  หุ้นสามัญ เป็นภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน

Common Stock แปลว่า หุ้นสามัญ  เป็นภาษาอังกฤษแบบสหราชอาณาจักรอังกฤษ

หุ้นสามัญ (Common Stocks หรือ Ordinary Shares) คือ ตราสารสิทธิที่แสดงความเป็นเจ้าของกิจการ และเมื่อกิจการมีกำไรจากการดำเนินงาน ผู้ถือหุ้นสามัญจะได้รับเงินปันผลในอัตราที่จัดสรรโดยที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น โดยคำนวณตามสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่ถือครอง ทั้งนี้ เงินปันผลอาจมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลกำไรจากการดำเนินงานประจำปีของกิจการ

The Stock Exchange of Thailand ชื่ออย่างเป็นทางการของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีบางท่านอาจจะสับสนว่า Stock เขาในคำนี้ในตลาดหลักทรัพย์ ส่วน Share ใช้ในบริษัท ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องคือ จะใช้คำไหนก็ได้เพราะคือความหมายเดียวกันครับ อย่าพยายามแยกสองคำนี้ให้แตกต่างกันครับ

การศึกษาและวิวัฒนาการทางภาษาไม่มีหยุดนิ่ง ใครๆ ก็รู้ได้ด้วยอากู๋ google ดังนั้น หากมีใครถามว่า stock กับ share ต่างกันอย่างไร ให้ตอบได้เลยว่า มันคือคำเดียวกันครับ ไม่ต้องแยกแยะว่า stock เขาใช้กรณีที่หุ้น trade ในตลาดหลักทรัพย์ ส่วน share ใช้เรียกกันในบริษัท เดี๋ยวจะอายคนที่เขารู้จริงครับ ถ้ามีใครถามเรา ถ้าเราไม่รู้บ้างก็ไม่ใช่ว่าคนถามจะว่าเราโง่นะครับ ก็เราไม่รู้จริงๆ คนเราจะรู้ทุกเรื่องอย่าง google คงเป็นไปไม่ได้ครับ ยกตัวอย่างแพทย์เฉพาะทาง ทำไมเราต้องไปหาแพทย์เฉพาะทาง เช่น เราปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ ทำไมต้องไปหาแพทย์ทางเดินอาหาร ทำไมไม่ไปหาแพทย์อายุรกรรมล่ะก็แพทย์เฉพาะทางท่านมีความรู้ความสามารถในการวินิจฉัยโรคทางเดินอาหารได้อย่าถ่องแท้ ย่อมทราบสาเหตุที่แท้จริง และรักษาได้ทันการณ์

คำสอนของท่านสุทรภู่ ยังใช้ได้จนถึงยุคปัจจุบัน รู้อะไรรู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล ดังนั้น ผมรู้เรื่องการแปลกฎหมาย หากลูกค้าส่งนิยายมาให้ผมแปล ผมก็ไม่สามารถรับได้เพราะผมไม่มีความสามารถในการแปลนวนิยายผมก็คงให้อาจารย์คณะอักษรฯ เป็นผู้แปลให้ครับ เพราะผมไม่มีความรู้ด้านนี้พอ ผมไม่ใช่สาวๆ หรือมีร่างเป็นชายหัวใจเป็นหญิง จึงจะทำงานนวนิยายได้สวยงาม น่าอ่าน อ่านแล้วน่าติดตามอะไรทำนองนี้ ผมไม่รู้ผมก็ตอบเลยไม่รู้ครับ ดีกว่าอวดรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้อย่างแท้จริง อายผู้ถามเปล่าๆ เผื่อท่านรู้อยู่แล้วแต่อยากลองของจากผมครับ แต่ถ้ามาสอบถามผมเรื่องศัพท์ทางกฎหมาย หรือศัพท์ทางธุรกิจ ซึ่งเป็นเส้นทางของผมซึ่งมีความรู้ตั้งแต่สมัยเรียนบัญชีที่จุฬา จนถึง MBA ธรรมศาสตร์ ศัพท์ทางกฎหมายที่ผมเรียนมาจากธรรมศาสตร์หลักสูตรการแปลกฎหมาย และหลักสูตรการแปล ผมสามารถตอบได้ทันที แต่หากเป็นศัพท์ที่ผมไม่เคยพบเห็นหรือไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยตั้งแต่เรียนจนถึงปัจจุบัน ผมก็อาจจะตอบผู้ถามไปว่าขออนุญาตไปสืบค้นข้อมูลหรือสอบถามอาจารย์ผู้รู้ด้านนั้นๆ ก่อน จึงจะตอบคำถามท่านได้ เพราะนั่น เป็นคำตอบที่ผมทำแล้วสบายใจที่สุด ไม่อวดศักดา ไม่อวดอ้างว่าเก่ง เพราะผมไม่รู้จริงๆ ครับ

ขอให้ผู้อ่านทุกท่านโชคดีครับ

พูลศักดิ์




แบ่งปันประสบการณ์แปลเอกสาร